เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ เดินทางเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ หลังจากที่เขาชนะเลือกตั้งเมื่อเดือนที่แล้วอย่างถล่มถลาย เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน สำนักข่าว BBC รายงานว่า เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ลูกชายของ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส อดีตผู้นำเผด็จการ ได้สาบานเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ แทนที่นาย โรดรีโก ดูแตร์เต อดีตประธานาธิบดีที่ดำรงตำแหน่งครบวาระ
นอกจาก มาร์กอส จูเนียร์ แล้ว ซารา ดูแตร์เต ลูกสาวของ โรดรีโก ดูแตร์เต
ก็ได้สาบานเข้ารับตำแหน่งในฐานะรองประธานาธิบดีเช่นเดียวกัน โดยประธานาธิบดีคนใหม่ได้ออกมาขอบคุณประชาชน พร้อมระบุว่านี่คือการเลือกตั้งครั้งที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยของฟิลิปปินส์ สำหรับนาย เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ชนะเลือกตั้งอย่างถล่มถลายเหนือ เดนิ โรเบรโด คู่แข่งคนสำคัญเป็นเท่าตัว ซึ่งการชนะเลือกตั้งในครั้งนี้จะทำให้ตระกูล มาร์กอส กลับมาครองอำนาจในรอบ 36 ปี หลังจากที่ถูกขับไล่จากการรุกฮือของประชาชน
ด้านผู้เชี่ยวชาญคาดว่าในช่วง 6 ปีถัดจากนี้ นาย มาร์กอส จูเนียร์ น่าจะยังดำเนินบริหารประเทศแบบเด็ดขาด และ โหดเหี้ยม แบบที่ นาย โรดรีโก ดูแตร์เต ประธานาธิบดีคนปัจจุบันที่กำลังจะหมดวาระในเร็วๆนี้ ซึ่งนาย มาร์กอส จูเนียร์ น่าจะสานต่อโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของนาย ดูแตร์เต และ กระชับความสัมพันธ์ระหว่าง ฟิลิปปินส์-จีน ทั้งนี้หลายฝ่ายแสดงความกังวลว่า ปัญหาคอร์รัปชันและ ปัญหาการเกื้อหนุนญาติมิตร จะเลวร้ายลง
หนึ่งในกรรมการของ FCC ได้ออกมาเรียกร้องให้ทางบริษัท Google และ Apple ดำเนินการแบน TikTok หลังมีข่าวแพลตฟอร์มเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้งานได้ (30 มิ.ย. 2565) Brendan Carr หนึ่งในคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารของสหรัฐฯ (FCC) ได้ออกมาเรียกร้อง พร้อมกับยื่นหนังสือเรียกร้องไปยังบริษัท Google และ Apple ในการดำเนินการแบนแพลตฟอร์มสังคมที่กำลังได้รับความนิยมในเวลานี้ – TikTok
โดยเขาได้ทำการโพสต์เอกสารพร้อมลายเซ็นที่ส่งไปยังทั้ง 2 บริษัทบนช่องทาง Twitter ส่วนตัวของเขา พร้อมกับได้แนบคำประกอบว่า “TikTok ไม่ใช่แค่แอปพลิเคชันวิดีโอทั่วไปเท่านั้น แต่มันเป็นผ้าคลุมแกะ (sheep’s clothing – การซ้อนความประสงค์ร้ายภายใต้ฉากหน้าที่ใสซื่อ) ต่างหาก”
Brendan Carr ได้ทำการอ้างอิงบทความข่าวของ BuzzFeed News ที่ได้รายงานถึงบันทึกเสียงประชุมภายในบริษัทของ TikTok ที่ได้กว่าวว่า บริษัทแม่สัญชาติจีนของ TikTok – ByteDance นั้น สามารถที่จะเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานแพลตฟอร์มในประเทศสหรัฐอเมริกาได้
พนักงานรายหนึ่งจากแผนกความเชื่อมั่น และความปลอดภัยของ TikTok ก็ได้ออกมาเปิดเผยในระหว่างการประชุมเมื่อเดือนกันยายนปี 2021 ว่า “ทุกสิ่งนั้นสามารถถูกมองเห็นได้ในประเทศจีน” เช่นเดียวกับเสียงพูดของผู้อำนวยการที่ได้กล่าวไว้ในการประชุมว่า “Master Admin” วิศวกรที่ทำงานในประเทศจีนนั้น สามารถเข้าถึงทุกสิ่งทุกอย่างได้
ภายหลังจากการรายงานประเด็นข่าวของ BuzzFeed แล้วนั้น TikTok ก็ได้ทำการประกาศว่าบริษัทจะโยกย้ายข้อมูลผู้ใช้งานในประเทศสหรัฐอเมริกาทั้งหมด (100%) ไปยังระบบเครือข่าย Cloud – Oracle เพื่อแก้ไขปัญหาความกังวลต่อการจัดการกับข้อมูลของผู้ใช้งานในประเทศ
ชาวเกาหลีใต้ได้เฮ! รบ. ปรับ ค่าแรงขั้นต่ำเกาหลีใต้ เป็น 261 บาท/ชม.
ถือเป็นข่าวดีสำหรับชาวเกาหลีใต้หลังจากที่ทางรัฐบาลอนุมัติ ปรับ ค่าแรงขั้นต่ำเกาหลีใต้ เพิ่มอีกร้อยละ 5 ทำให้ค่าแรงขั้นต่ำขยับมาเป็น 261 บาท/ชม. เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน สำนักข่าว ชาแนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า ทางการเกาหลีใต้เตรียมขยับ ค่าแรงขั้นต่ำในเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ซึ่งจะทำให้ค่าแรงขั้นต่ำในเกาหลีใต้อยู่ที่ราวๆ 261 บาทต่อชั่วโมง คาดว่าจะมีผลใช้ในปีหน้า
จากการเพิ่มขั้นแรงขั้นต่ำในเกาหลีใต้นั้น จะส่งผลกระทบกับแรงงานราวๆ 3.4 ล้านชีวิต ซึ่งทางการระบุว่าสาเหตุที่พวกเขาตัดสินใจเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ หลังจากที่ทางการพิจารณาอัตราการเติบโต เงินเฟ้อ อัตราการจ้างงาน
ก่อนหน้านี้ นาย มุน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนก่อน ได้ขึ้นค่าแรงขึ้นต่ำมากถึงร้อยละ 16.4 ในกรกฎาคมปี 2560 ซึ่งเป็นปีแรกที่มุน แจอิน เข้าดำรงตำแหน่ง โดยในตลอดช่วงเวลา 5 ปีที่นาย มุน แจอิน ดำรงตำแหน่ง ประชาชนเกาหลีใต้ถูกปรับ ค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 41.6
นอกจากรายงานข่าวดังกล่าวแล้วนั้น Carr ยังได้อ้างอิงรายงานอื่น ๆ ที่แสดงให้ถึงความกังวลในแนวทางการจัดการข้อมูลของ TikTok เช่น การค้นพบว่าแพลตฟอร์มได้ทำการเจาะระบบป้องกันของทั้ง Android และ iOS ในการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน และการที่ TikTok ได้ทุ่มเงินจำนวน 92 ล้านดอลลาร์เพื่อจัดการกับคดีความที่ว่าแพลตฟอร์มได้ทำการเก็บข้อมูลโดยไม่ขอความยินยอม และขายให้กับบริษัทโฆษณาต่าง ๆ
Carr ได้กล่าวว่า “มันเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า TikTok ถือว่าเป็นความเสี่ยงทางความมั่นคงของประเทศที่ยอมรับไม่ได้ เนื่องจากการกว้านเก็บข้อมูลอย่างกว้างขวาง พร้อมกับการเข้าถึงข้อมูลสำคัญอย่างไม่สามารถตรวจสอบได้ของรัฐบาลจีน”
ขณะที่นาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกมาสาบานว่า เขาจะต่อสู้กับการแพร่ระบาดของความรุนแรงจากอาวุธปืน ทั้งนี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมาผู้นำสหรัฐฯได้เซ็นกฎหมายเกี่ยวกับความปลอดภัยจากอาวุธปืนเป็นครั้งแรกในรอบสามสิบปี
แนะนำ : ดูดวงไพ่ยิปซี | รีวิวที่พัก | รีวิวคาเฟ่ | วิธีลดน้ำหนัก | รีวิวอนิเมะ ญี่ปุ่น